Home » , , , , , » ส่วนผสมของดิน เพาะปลูกแคคตัสและไม้อวบน้ำครับ #SOIL MIXED ส่วนผสมดิน

ส่วนผสมของดิน เพาะปลูกแคคตัสและไม้อวบน้ำครับ #SOIL MIXED ส่วนผสมดิน

Written By rabeangmaithai on 16 มกราคม, 2561 | วันอังคาร, มกราคม 16, 2561



บทความนี้ ดึงมาจาก  เว็บ :  https://sites.google.com/site/weecactus/how-to
นำมาแก้ไขบางส่วน และขอขอบพระคุณบทความดี ๆ จากผู้เขียนโดยตรงครับ





ส่วนผสม วัสดุปลูก สำหรับกระบองเพชร (แคคตัส) และ ไม้อวบน้ำ ทุกวันนี้เครื่องปลูกไม่เหมือนสมัยก่อนที่มีให้เลือกไม่มาก เช่น ดิน ทราย และ แกลบ ทำให้การปลูกไม้ต่างถิ่นเริ่มง่าย และเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น  ต้นไม่ตายง่ายและ ดูแลไม่ยากเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป โดยทั่วไปแล้ว วัสดุปลูกก็จะประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือให้วัสดุปลูกนั้นเหมาะสมกับ กระบองเพชร (แคคตัส) และ ไม้อวบน้ำของเรา

โดยส่วนประกอบในสูตรการผสมดินปลูกแคคตัสมี คร่าว ๆ ดังนี้




1. ดิน 



ดินที่ใช้ในการเพาะปลูกกระบองเพชรได้นั้น  ส่วนมากจะเป็นดินถุง ที่หาซื้อใช้กันได้ทั่วไป สำหรับปลูกไม้ดอกไม้ประดับตามร้านขายดินปลูกต้นไม้  ดินที่ได้จะเป็นดินปนทรายบ้าง ดินขุยไผ่บ้าง หรือ แม้แต่ดิน ธรรมดาทั่วไป การผสมดินนั้น ไม่ว่าอย่างไร ก็ยังต้อง ใช้วัสดุเพาะปลูกตัวอื่น ช่วยให้คุณสมบัติดินดีที่สุด เป็นวัสดุปลูกที่เหมาะสมกับกระบองเพชรด้วย  แต่ส่วนมากจะใช้ดิน ปนทรายน่าจะดีที่สุด เพราะมีค่าเป็นกรดเป็นด่างไม่สูงจนเกินไป หากจะซื้อดินถุงที่ขายกันตามตลาดต้นไม้ทั่วไป ควรพักดินไว้ก่อนประมาณ 2 - 3 เดือน เนื่องจาก ดินบางส่วนเป็นหน้าดิน ค่ากรด ด่าง บางทีอาจสูงเกินไป ควรใช้ดินที่มีการพักตัวหรือมีการย่อยสลายสูงหน่อยป้องกัน ค่า PH ที่ไม่เหมาะสม ต่อการเจริญเติบโตของพืช 


2. หินภูเขาไฟ (Pumice)


    ภาพหินภูเขาไฟ เบอร์ 01 





เบอร์ หรือขนาด ที่ใช้ผสมกับวัสดุปลูกส่วนมากจะใช้ขนาด 00, 01 และ 02 เพราะมีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป มีจำหน่ายเป็น ห่อเล็ก ๆ 1 กิโลกรัม และ กระสอบใหญ่ 18 กิโลกรัม หินภูเขาไฟ มีสองชนิดใหญ่ ๆ คือ หินที่ได้จากลาวา และ หินที่ได้จากการระเบิดของภูเขาไฟเอง แต่ส่วนที่เราเอามาผสมที่มีลักษรณรูพรุนมาก ๆ จะเป็นส่วนที่เกดจาก ลาวาที่เย็นตัวลง โดยธรรมชาติ หินภูเขาไฟจะมีค่า PH เป็นกลาง แต่ประโยชน์ของมันคือ ช่วยในการเพิ่มพื้นที่อากาศ ในดิน และทำให้ดินร่วนซุย ไม่แน่น แต่ประโยชน์ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ สามารถแลกเปลี่ยนประจุบวก ลบ แต่ที่จับได้ดีมีไม่่กี่ตัว คือไนโตรเจน โปรแตสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ตัวหินจะช่วยจับแร่ธาตุเหล่านี้ไว้พอรากของต้นไม้ได้เกาะและดูดซับจะทำให้ได้อาหาร มากกว่า ดินที่ไม่ได้ผสมหินภูเขาไฟ


คลิกที่ป้าย " รวมรายการสินค้า "


3. หินลาวาดำ (Black lava) 



หินตัวนี้ส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจาก อินโดนีเซีย  ลักษณะ แข็ง แต่มีรูพรุนจำนวนมาก คล้าย Pumice แต่มีน้ำหนักมากกว่า ขนาดเม็ด จะอยู่ระหว่าง 0.2 - .07 mm. ขนาด เหมาะสมที่จะเป็นวัสดุปลูก หรือ โรยหน้าดิน ใช้ประคองต้นแคคตัส ไม้อวบน้ำให้มั่นคงอยู่ในกระถาง  เนื้อหินลาวา ประกอบไปด้วย ซิลิก้า 45 เปอร์เซนต์ ขึ้นไป หินลาวาประเภทนี้ จัดเป็นหินบะซอลต์ คือเกิดจากการเย็นตัวของลาวาที่มีความหนืดน้อย สีจะเข้ม เนื่องจากมีแร่ไพร็อกซีนเป็นส่วนผสมหลัก  ส่วนใหญ่ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมไม่แพ้  Pumice  

4. เพอร์ไรท์ (Perlite) 




สำหรับการเป็นวัสดุเพาะปลูก จะมีอยู่สองขนาดด้วยกัน คือ เล็ก S ( fine size , 0.1 - 0.3 mm. ) , ใหญ่ M ( expand size , 0.5 - 0.7 mm. ) โดยทั่วไปจะแบ่งขายเป็นห่อเล็กโดยบางครั้ง ขนาด 4 ลิตรบรรจุ จะผสมทั้งสองตัวนี้เข้าด้วยกันในถุงเดียว แต่ถ้าถุงใหญ่ขนาดกระสอบข้าวสาร เม็ดเล็ก จะถูกกว่ามาก 
ส่วนประกอบหลัก เป็น ซิลิก้า ประมาณ 70 % คุณสมบัติคือ ดูดซับความชื้นได้ และเป็น ชนวน กันความร้อน และมีธาตุอาหารเสริมอีกหลายชนิดในเพอร์ไลท์ ที่สำคัญคือ อลูมิเนียม และ โซเดียม เมื่อผสมในดินจะช่วยปรับค่า กรดด่างให้เป็นกลาง


คุณสมบัติทางเคมีของเพอร์ไลท์ 

Typing Chemical Analysis 
Silica 73.78% 
Alumina 14.73% 
Ferric Oxide 1.31% 

Titanium Oxide 0.05% 
Calcium Oxide 1.58% 
Magnesium Oxide 0.27% 
Sodium Oxide 2.04% 
Potassium Oxide 5.15% 
Water 0.49% 
Loss in Ignitions 1.8% 



5. เวอร์มิคูไลท์  (Vermiculite) 



เป็นสารไมคา เป็นอินทรีย์วัตถุที่ได้จากการสังเคราะห์ เป็นกลุ่ม Aluminosilicate เป็นคอลลอยด์ที่มีอยู่ในดินมากที่สุดในโครงสร้างของแร่ดินเหนียว นำมาผ่านกระบวนการ จนกลายเป็น ชั้น ๆ คล้ายฟองน้ำก้อนจิ๋ว ๆ โดยชั้นบาง ๆ ที่เห็นเป็นคุณสมบัติของดินเหนียว คือเมื่อส่องด้วยกล้องจุลทัศน์ ก็จะเห็นเป็นแผ่นบาง ๆ  มีค่า pH เป็นกลางสามารถดูดน้ำได้ดี ไม่ละลายน้ำ 

ประโยชน์ ที่มีกับพืช คือ ช่วยเป็นที่ยึดเกาะของราก และ ช่วยเก็บกักสารอาหารสำหรับพืช หรือปุ๋ยที่เราได้ให้ไป  ธาตุอาหารโปแตสเซียม 5-8% แมกนีเซียม 9-12% และอยู่ในรูปพืชจะนำไปใช้ประโยชน์มีค่า Cec สูง คือประมาณ 100-150 me/100g 


ุ6.  ทราย  (Sand)


เป็นวัสดุปลูกกระบองเพชร และ ไม้อวบน้ำที่นิยมมากที่สุด ทรายเกิดจากหินที่แตกละเอียดจนมีขนาดเล็กป่น แต่ควรจะหาทรายมีขนาดเม็ดที่ใหญ่หน่อย ส่วนมากเป็นทรายแม่น้ำ เหมาะสมกับการปลูกพืช เพราะ จะทำให้ดินร่วนซุย  และ ไม่แน่นจนเกินไป


7.   พีทมอส  (Peat moss) 


เป็นวัสดุปลูก ที่นิยมในการใช้เพาะเมล็ด เป็นวัสดุปลูกที่เกิดจากการย่อยสลายของ สแฟคนั่มมอสอีกที โดยตัวของมัน มีค่า PH อ่อนๆ ในไทยมีแบ่งขาย และเป็นถุงกระสอบ ก่อนซื้อ ควรระบุว่าเอาแบบละเอียด


8.  กาบมะพร้าวสับ  (Coir) กับ ขุยมะพร้าว


ถ้าละเอียดกว่าในภาพ ก็ จะดีมากครับ 

 


ส่วนที่เป็นกาบมะพร้าวสับ เกิดจากการปลอก ส่วนขุย ได้จากพวก โรงงานทำเส้นใย แหล่งที่ผลิตจะเป็นทางภาคใต้ซะส่วนใหญ่ แต่หาซื้อง่ายทั่วไป ค่า PH จะอยู่ประมาณ 6 - 7 สารอาหาร ส่วน มากจะเป็น ไนโตรเจน กับ ฟอสฟอรัส แต่การที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องปลูก กระบองเพชร และ ไม้อวบน้ำ ควรทิ้งไว้ก่อนประมาณ 2 - 3 เดือน เพราะในช่วงแรกเครื่องปลูกที่ผสม กาบ และ ขุย มะพร้าวจะออกรากดีมาก แล้วจะชะงัก


สั่งซื้อสินค้า  ตามลิ้งค์นี้เลยนะครับ http://www.rabeangmaithai.com/p/blog-page_15.html





คลิกที่ป้าย " รวมรายการสินค้า "

10 ความคิดเห็น:

  1. ในการเตรียมเครื่องปลูกแคคตัสหรือไม้อวบน้ำต้องใช้อะไรบ้างในการนำมาผสมดินปลูกอะค่ะ คือเท่าที่อ่านมันมีหินหลายประเภทที่แนะนำ เลยไม่แน่ใจว่าต้องใช้ตัวไหนบ้างค่ะ

    ตอบลบ
  2. ดินร่อน 2 ส่วน (ดินที่ซื้อจากร้านทั่วๆไป ร่อนเอาเฉพาะส่วนละเอียด) หรือ พีทมอส 2 ส่วน
    ทราย 1 ส่วน
    หินภูเขาไฟ 1 ส่วน
    เพอร์ไล / เวอร์มิคูไล 1/2 ส่วน (เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง)
    ปลูก cactus + อวบน้ำ ได้เกือบทุกชิด

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณนะครับ K' same beweae ที่ช่วยกันร่วมแบ่งปัน ความรู้ในการเลี้ยงแคคตัสครับ ^_^

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ28 มิถุนายน, 2560 09:07

      ขอบคุณมากๆสำหรับความรู้ ที่แบ่งปันให้นะคะ

      ลบ
  3. ขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับข้อมูล

    ตอบลบ
  4. ที่บ้านให้แค่ดินที่ขายในท้องตลาด + ทราย 50/50 ค่ะ ก็โอเค
    ปลูกแล้วรดน้ำจนชุ่ม แล้ว ตั้งกลางแดด 100 เปอร์เซ็น ให้น้ำอาทิตย์ละครั้ง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่เลยครับ เบสิค ๆ เลยก็ ทราย+ ดินเกษตร หรือที่หลาย ๆ ร้านจะบอกว่า ดินผสมใบก้ามปู นะครับ

      เน้นว่าผสมแล้ว ร่วน ไม่แน่น ก็ปลูกแคคตัสได้สบาย ๆ แล้วหละครับ

      แต่ปจัจุบัน พวกเครื่องปลูก มีการนำเสนอและให้ความรู้มากขึ้น เลยทำให้ มีตัวเลือกในการนำมาใช้ผสมเป็นเครื่องปลูก ได้มากขึ้น

      ที่สำคัญ ผมคิดว่า แต่ละสภาพอากาศ ใช้วัสดุปลูกแตกต่างกัน ให้ผลแตกต่างกันครับ

      ลบ
  5. ผมใช้ดิน 1 ส่วน ทราย 1 ส่วน เศษอิฐแตก 1/2 เศษถ่าน 1/2 หินภูเขาไฟ 1/2 ให้โดนแดดเฉพาะครึ่งวันเช้า ต้นออกดอกดี แต่ไม่ค่อยโตเท่าไหร่ ขอคำแนะนำหน่อยคับ

    ตอบลบ
  6. ซื้อดินผสมสำหรับปลูดแคคตัสโดยเฉพาะเลยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าเป็นดินปลูกที่สวนแคคตัสผสมมาเพื่อจำหน่ายโดยตรง ไม่ค่อยมีปัญหาครับ
      เพราะเค้ามักจะผสมวัตถุดิบค่อนข้างดี แล้วก็ผ่านการลองผิดลองถูกมาจนมั่นใจว่าใช้ได้ดีจริงๆ
      ส่วนดินปลูกแคคตัสสำเร็จรูปถุงเล็กๆที่วางขายตามร้านขายต้นไม้ทั่วไป ผมจะนำมาตากแดดไว้สัก 1-2วัน เพื่อระบายความชื้นและฆ่าเชื้อโรคที่อาจจะติดมา แล้วก็ผสมเครื่องปลูกเพิ่มลงไปอีก เพราะดินจะค่อนข้างทึบแน่น ต้องเสริมให้ดินโปร่งมากขึ้นครับ
      ส่วนตัวแล้ว เวลาซื้อวัสดุปลูกอะไรมาก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นหินภูเขาไฟ เพอร์ไลท์ เวอร์มิคูไลท์ หรือดินปลูก
      อย่างน้อยที่สุดก็จะเอามาตากแดดไว้ก่อน หรือหากล้างน้ำได้ และซื้อมาปริมาณไม่มาก
      ก็จะเอามาล้างน้ำหนึ่งรอบ เอาเศษฝุ่นผงอะไรต่อมิอะไรออกก่อน จากนั้นก็แช่น้ำที่ผสมน้ำยาล้างผักเพื่อฆ่าเชื้อโรค
      ล้างน้ำเปล่าอีก 1-2 รอบ นำไปตากแดดให้แห้ง แล้วค่อยเอามาใช้
      อาจจะยุ่งยากหลายขั้นตอน แต่ก็ต้องทำเพื่อให้มั่นใจว่าวัสดุปลูกของเราสะอาดจริงๆครับ

      ลบ

ร่วมแสดงความคิดเห็นได้นะครับ สอบถาม แลกเปลี่ยนความรู้ เทคนิคกันได้นะครับ

Popular Posts

สั่งซื้อสินค้า ติดต่อที่ไลน์ ไอดี : @rbm2018

เช็คเรทค่าจัดส่ง ก่อนสั่งซื้อสินค้า